ข้อมูลเทศบาล
นายประหยัด ทรงคำ - นายกเทศมนตรีเมืองแม่โจ้    <br>Tel.&@Line : 081-6716678

นายประหยัด ทรงคำ

นายกเทศมนตรีเมืองแม่โจ้
Tel.&@Line : 081-6716678

คุยกับนายกเทศมนตรี

เว็บบอร์ด

ขอบคุณเทศบาลแม่โจ้

  • 18 กรกฎาคม 2556, 14:09 น.
  • อ่าน 1,417 ครั้ง

ผู้ตั้งกระทู้ : หาเช้ากินค่ำ

IP : 171.100.167.190

โทรศัพท์:

อีเมล:

ข้อความ:

ขอบคุณเทศบาลแม่โจ้มากครับ
จาก คนคนหนึ่งซึ่งเคยมีรายได้จากการเล่นดนตรีเพื่อใช้ในการส่งตัวเองเรียนโอนเงินให้บิดามารดาในการใช้ชีวิตในแต่ละวันจ่ายค่า ธกส.บ้างค่าฌาปนกิจบ้าง ค่าอะไรต่อมิอะไร ตอนนี้ไม่มีแล้วครับ ไม่เป็นไร...ขอบคุณแทนน้องๆเพื่อนๆด้วยครับ จากคนบ้างคนทำงานบริการเพื่อใช้ในการจ่ายค่าหอ ค่าเทอม ค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ตอนนี้ไม่มีแล้วครับ พนักงานต้องถูกลดลง ตกงานกันไปก็มีเยอะ...


ขอบคุณครับ

ความคิดเห็นทั้งหมด 11 รายการ

ผ่อนต่อไม่ได้ :

18 กรกฎาคม 2556, 18:23 น.


เด็ดดอกหญ้าสะเทือนถึงดวงดาว ทุกคนมีอาชีพและกิจการกันทั้งนั้น กิจการหนึ่งๆ หากขาดส่วนประกอบใดไป ก็ดำเนินต่อไปได้อย่างไม่ราบรื่น นั่นส่งผลต่อรายได้ประจำวัน ชาวบ้านก็เช่นกัน หาเช้ากินค่ำมีลูกหลานต้องส่งเรียน เขาก็ต้องทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้เงินในส่วนนั้นมา แล้วหากนักศึกษาบางคนต้องการหาเงินส่งตัวเองเรียน หาค่าขนม แบ่งเบาภาระ เขาผิดขนาดนั้นเชียวหรือ ห้ามเขาทำแล้วเขาจะอยู่อย่างไร ไหนจะค่าหออีก ค่าตำราเรียน เดือดร้อนกันไปตามๆกัน ถ้าถามว่า ทำไมไม่ไปล้างจาน เป็นเด็กปั๊ม หรือพนักงานร้านสะดวกซื้อ ท่านผู้ใหญ่ที่เคารพ เรามีความสามารถและพรสวรรค์ด้านนี้ เหตุใดเราจึงต้องเก็บไว้ เหตุผลอื่นคือ งานอื่นเช่นพนักงานปั๊มน้ำมัน หรือพนักงานร้านสะดวกซื้อ เขาทำงสนเป็นช่วงเวลานะคะ เช้าถึงเย็นเราเรียน ถึงค่ำก้อมี เวลาเรียนเลิกช้าเร็วไม่ตรงกันสักวัน งานเหล่านี้ต้องตรงเวลา และลางานได้ไม่บ่อยนัก และทำหลายชั่วโมงซึ่งส่งผลกระทบต่อเวลาการทบทวนตำรา จึงขอให้ท่านผู้ใหญ่ ผู้มีอาชีพ เงืนเดือน และครอบครัวที่สมบูรณ์แบบ โปรดเห็นใจและพิจารณาด้วย จะเป็นความกรุณาอย่างสูงที่สุด ขอบพระคุณเป็นอย่างสูง ขอแสดงความนับถือ จากนักศึกษาตัวเล็กหาเงินเพื่อการศึกษาคนหนึ่ง

ความคิดเห็น/คำตอบที่ 1

ทำความเข้าใจ :

19 กรกฎาคม 2556, 10:46 น.


ทางเทศบาลเมืองแม่โจ้ขอประทานโทษนะคับที่เป็นแบบนี้ ซึ่งทางเทศบาลเมืองแม่โจ้ก็ไม่อยากให้มันเกิดขึ้นแต่มันเป็นกฎหมายบ้านเมือง และกฎทางสังคมที่ควรปฎิบัติกัน ความจริงทางเทศบาลเมืองแม่โจ้ของเราก็ได้เข้าใจความรู้สึกของทางผู้ประกอบการ และน้องๆ ที่ต้องทำงานเพื่อส่งตัวเองเรียน แต่ให้ผู้ประกอบการ และน้องๆ นักศึกษา เข้าใจด้วย ว่าน้องๆ เป็นส่วนหนึ่งในสังคม และสังคมนี้ไม่ได้มีแค่น้องๆ ที่ต้องเรียนและทำงานส่งตัวเองเรียนอยู่แค่กลุ่มเดียว ยังมีประชาชน และนักศึกษาอีกมาก เป็นจำนวนหลายพันคนในเขตพื้นที่นี้ ที่เขาก็ต้องเรียน และทำงานกันในช่วงเช้า ที่คนส่วนใหญ่เขาทำกัน แล้วพวกเขาต้องมาทนกับการรับฟังเสียงที่มันดัง ทำให้ไม่ได้พักผ่อนในช่วงเวลากลางคืน
และถ้าคิดเป็นเปอร์เซ็นต์แล้ว พวกผู้ประกอบการร้านอาหารตอนกลางคืน และน้องๆ ที่ทำงานร้านอาหารตอนกลางคืน เป็นแค่ส่วนหนึ่ง ไม่ถึง 5 เปอร์เซ็นต์ ของสังคมแม่โจ้ ที่ต้องทำงานเหมือนกัน ละอีก 95 เปอร์เซ็นต์ ที่เขาต้องทำงานตอนเช้า และนักศึกษาที่พ่อแม่เขาทำงานตอนเช้าเพื่อส่งลูกเขามาเรียน เพื่อให้ลูกเขาจบในมหาวิทยาลัยแม่โจ้และได้เป็นนายคน และพี่ว่าน้องๆ ที่ทำงานร้านขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หรือร้านอาหารตอนกลางคืน พี่ว่าถ้าพ่อแม่น้องรู้ หรือว่าเห็นน้องๆ ในสภาพแบบนี้ พี่ว่าท่านคงไม่ภูมิใจ และดีใจ ที่พวกน้องๆ ต้องมาทำงานนี้ และต้องมารับใช้คนอื่นแบบนี้ เพราะพ่อแม่ของน้องๆ ที่ต้องทนลำบากทำงานทุกวันเพื่อส่งให้น้องมาเรียน เพื่อจบออกไปเป็นนายคน ไม่ใช้มารับใช้คนในฐานพนักงานเสริฟเหล้า
และสิ่งสุดท้ายที่สำคัญ ถ้าร้านอาหารไม่เสียงดัง และถ้าไม่รบกวนบุคคลอื่นแล้ว ผมคิดว่าถ้าประชาชน เขาคงไม่มาเดือดร้อน และร้องเรียนกันถึงขนาดนี้
วันนี้คติประจำใจของคนดีที่มีจิตสำนึกดี สังคมจะดีได้ ถ้าคนในสังคมนั้นไม่เห็นแก่ตัว >_<

ความคิดเห็น/คำตอบที่ 2

หาเช้ากินค่ำ :

19 กรกฎาคม 2556, 16:42 น.


กรณีข้อพิพาท ปัญหามีอยู่ว่าเรื่องของเสียง ผมเข้าใจความรู้สึกระแวงบ้านนั้นดีครับว่าเสียงเป็นอุปสรรครบกวนการดำเนินชีวิตมากแค่ไหน บางครั้งผมก็ยอมรับครับว่าเสียงมันดังเกินไปจริง เปิดเกินเวลาจริงครับ แต่ทางเทศบาลน่าจะหาวิธีที่แก้ไขให้ดีกว่านี้นะครับ แบบว่า ถูกใจทั้งสองฝ่าย อย่างที่รู้ว่ามีปัญหาเรื่องเสียงดัง คุณก็ควรออกมาตรการ มาตรวัดเรื่องเสียงควรดังไม่เกินเท่าไร?? เอาให้ถูกใจทั้ง 2 ฝ่ายไปเลย จำหน่ายได้ถึงเมื่อไร?? ร้านไหนไม่ปฏิบัติตามจัดการตามมาตรการขั้นเด็ดขาดเลยครับ ถ้าเป็นแบบนี้ผมก็เห็นด้วย ผิดว่าไปตามผิด เพราะผมก็เห็นใจคนที่อยู่ละแวกร้านเหมือนกันครับ ... แต่ผมคิดคิดว่า คุณน่าจะมีศักยภาพในการทำงานแก้ปัญหามากกว่านี้.....
กรณีคำพูดนี้.............
“พี่ว่าน้องๆ ที่ทำงานร้านขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หรือร้านอาหารตอนกลางคืน พี่ว่าถ้าพ่อแม่น้องรู้ หรือว่าเห็นน้องๆ ในสภาพแบบนี้ พี่ว่าท่านคงไม่ภูมิใจ และดีใจ ที่พวกน้องๆ ต้องมาทำงานนี้ และต้องมารับใช้คนอื่นแบบนี้ เพราะพ่อแม่ของน้องๆ ที่ต้องทนลำบากทำงานทุกวันเพื่อส่งให้น้องมาเรียน เพื่อจบออกไปเป็นนายคน ไม่ใช้มารับใช้คนในฐานพนักงานเสริฟเหล้า"
โลกสวย...???
ผมอยากทราบว่าทำงานเป็นเด็กเสริฟ มันน่าอายหรือครับ??? ผมตอบตรงนี้เลย พ่อแม่ผมภูมิใจมาก เพราะอะไร ผมคิดว่าคงอย่างพวกคุณคงไม่เข้าใจ เอาเป็นว่าผมจะกรุณาเปิดโลกแห่งความเป็นจริงให้กับคุณแล้วกันครับ ผมคนหนึ่งที่ทำงานตรงนี้ส่งตัวเองจนเรียนจบปริญญาตรี โดยไม่ขอเงินทางบาทสักบาท!!!! (เพราะบ้านผมจนครับ) ที่สำคัญผมไม่กู้เงิน กยศ. ด้วย อีกทั้งผมยังส่งเงินให้ทางบ้านใช้ไม่ขาดสายทุกเดือนครับเดือนหนึ่งบอกเลยไม่ต่ำกว่า 3000 บาท ทำไหมหรอครับ??? คนบางคน ทำงานเงินเดือนหมื่นกว่ายังไม่มีปัญญา ส่งเงินให้บิดามารดาใช้เลยครับคุณ.......แล้วสิ่งที่ผมทำ คุณว่ามันน่าอายไหมละ???? ที่ผมทำงานสุจริต ไม่ค้ายาเสพติด ไม่โกงคนอื่น ไม่รับนอกรับใน มันน่าอายตรงไหนครับ?? กับอาชีพเด็กเสริฟ!!!! (เพราะสังคมไทยสอนให้คนคิดแบบนี้แหละ คิดที่จะดูถูก คิดสอนลูกแต่เป็นเจ้าคนนายคน คนเลยเกิดการแข่งขันกันสูง ยอมเหยียบหัวผู้อื่นเพื่อทยานตัวเองให้สูงกว่า นี่แหละครับเราเรียกคนไม่มีจิตสำนึกที่แท้จริง!!! จิตสำนึกที่แท้จริงเขาไม่ได้วัดกันตรงที่อาชีพการงานหรอกครับ) ผมไม่อยากจะเชื่อเลยว่านี่คือความคิดของคนที่ทำงานระดับนี้..เพราะผมเชื่อว่าคนงานระดับนี้น่าจะมีความรู้พอควร!!!
อีกประเด็นหนึ่งกับคำว่า “เสียงส่วนน้อย” ของคุณ ผมขอแสดงความคิดเห็นนะครับ ในระบอบประชาธิปไตย เคารพเสียงส่วนมาก แต่ก็ไม่ละเลยเสียงส่วนน้อย (นี่คือหลักพื้นฐานที่ทุกคนควรทราบ คุณก็นาจะทราบดี!!) คุณจะบอกว่านี่คือเสียงส่วนน้อย คุณใช้อะไรมาวัด??? คุณเคยวัดแล้วรึยัง??? อีกอย่างเสียงส่วนน้อยที่คุณว่านี้ ถ้าการนับ 100 เปอร์เซนต์ในขอบเขตคนทั้งเขตแม่โจ้ เลยหรอครับ??? แต่!!ผมว่ามันมีมากกว่า 5 เปอร์เซ็นต์แน่นอนครับ อีกอย่างคุณอย่างลืมนะครับ ถึงแม้ผมจะเป็นเสียงส่วนน้อย ผมก็คนหนึ่งที่ที่เป็นประชาชนในพื้นที่!! ที่มีสิทธิที่จะปกป้องสิทธิของผม และคุณเป็นส่วนหนึ่งของเทศบาลแม่โจ้ที่ต้องร่วมรับผิดชอบกับการแก้ปัญหานี้อย่างรอบคอบ เข้าใจใหม่นะครับ!! เพราะเสียงส่วนน้อยก็มีความสำคัญเหมือนกัน... สุดท้ายผมเข้าใจกับปัญหาที่เกิดขึ้นของทั้งสองฝ่ายนะครับ แต่การแก้ปัญหาผมว่ามันยังไม่ตรงจุด

ความคิดเห็น/คำตอบที่ 3

แสดงความเห็น :

19 กรกฎาคม 2556, 18:56 น.


ถ้าคิดจะเปิดเพลงก็ทำโซนเก็บเสียงไม่ให้เสียงมันออกมานอกร้านรบกวนชาวบ้านสิครับ แค่นี้ก็จบครับ ไม่มีเสียงดังรบกวนก็ไม่มีใครเดือดร้อนหรอกครับ แต่เท่าที่เห็นเปิดโล่งทุกด้าน ยิ่งดึกยิ่งดัง อย่าลืมสิครับว่าไม่ได้มีร้านเดียว แต่มันมีเป็นสิบร้านนะครับ ลำพังแค่เสียงคนคุยกันอย่างเดียวก็ได้ยินไปไกลแล้วครับ

ความคิดเห็น/คำตอบที่ 4

ประชาชนคนหนึ่งในเทศบาลแม่โต :

19 กรกฎาคม 2556, 21:28 น.


จากกรณีข้อพิพาทระหว่างร้านเหล้า+เทศบาล+กับชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจริงๆขอแนะนำว่าให้มาคุยกันหาข้อตกลงที่มีทางออกทั้ง3ฝ่ายแต่ต้องเอาคนที่เขาเดือดร้อนจริงๆนะ..ส่วนที่บอกว่าร้านอาหารเป็นเสียงส่วนน้อยคุณคิดผิดแล้วล่ะอย่าลืมว่าฐานเสียงของคนกลุ่มนี้ก็ส่วนใหญ่เป็นคนในพื้นที่หากเค้ารวมตัวกันจรืงๆใหนจะพนักงานเพื่อนพนักงานญาติพี่น้องก็ไม่น้อยนะ

ความคิดเห็น/คำตอบที่ 5

นาย :

20 กรกฎาคม 2556, 13:56 น.


อย่าไปบิดเบือนประเด็นเป็นส่วนน้อยส่วนใหญ่เลยครับ เรื่องมันมีประเด็นเดียวคือการทำผิดกฏหมาย กฏระเบียบที่ใช้ร่วมกันเพื่อให้สังคมที่มีความหลากหลายอยู่ร่วมกันได้อย่างปกติสุข หากกระทำการใดๆ หรือประกอบอาชีพใดๆ ที่อยู่ภายใต้กฏระเบียบก็ไม่ต้องมีการดำเนินการทางกฏหมายหรอกครับ ก่อนจะเรียกร้องสิทธิไม่ว่ากลุ่มมากหรือน้อย จะต้องเข้าใจก่อนว่าสิทธิ์นั้นๆ ไม่ได้ไปละเมิดผู้อื่น

ความคิดเห็น/คำตอบที่ 6

ตอบ :

22 กรกฎาคม 2556, 15:01 น.


คำว่ากฎระเบียบกฎหมายแล้วยังไงคะเห็นใช้คำพวกนี้กับโซนร้านในซอยตลาดนี้จัง แหม..คนที่ร้องเรียนก้อคงไม่พ้นคนเดียวนั่นแหละคะ ถ้าคิดว่าเสียงดังจริงก้อเอาเครื่องวัดเสียงมาวัดกันเลยดีมั้ยคะตามที่กฎหมายกำหนดว่าเสียงดังได้ถึงแค่ไหน ส่วนเรื่องที่ร้องเรียนกันต่อให้เราเงียบยังไงเชื่อเถอะคะว่าพวกคุณก้อไม่หยุดร้องเรียนกันหรอกค่ะ ขอพูดตรงๆๆนะคะคนที่ร้องเรียน พวกคุณจะหยุดก้อต่อเมื่อโซนนี้ไม่อยู่เท่านั้นแหละจริงมั้ยคะท่านๆๆๆๆๆๆๆผู้ร้องเรียน

ความคิดเห็น/คำตอบที่ 7

นาย :

23 กรกฎาคม 2556, 10:09 น.


เวลาผมมาโพสผมจะใช้ชื่อเดิมทุกครั้งครับแม้ ip อาจจะต่างกันบ้าง ส่วนเรื่องร้องเรียนจะเป็นผมหรือไม่ผมคงไม่ตอบนะครับ
คือต้องไปทำความเข้าใจเรื่องการปกครองในบ้านเมืองเราด้วยนะครับว่าถ้าเราทำถูกต้องแล้ว เอาพื้นฐานง่ายๆ ก่อนแค่มีใบอนุญาตครบ และปฏิบัติตามระเบียบเอาแค่การปิดเปิดร้าน การจำหน่ายสุรา การใช้เสียงอันนี้ต้องไปศึกษาเองบ้างนะครับ ถ้ามองตัวเองแล้วว่าทำถูกหมดแล้ว ยังถูกเจ้าหน้าที่ใช้อำนาจอย่างไม่ถูกต้อง ก็ยังมีช่องทางให้คุณปกป้องตัวเองอีกครับซึ่งอันนี้ก็ขอให้ไปศึกษาเองนะครับ บ้านเมืองเรามีระบบคานอำนาจกันอยู่ และมีช่องทางปกป้องคนดีอยู่ครับ แต่ต้องยืนยันความถูกต้องตัวเองได้นะครับ มีถึงประเด็นสุดท้ายที่กล่าวหาว่าผู้ร้องเรียนหรือผมเอง ต้องการให้ร้านปิดกิจการเท่านั้น ซึ่งอยากให้ไปอ่านข้อความเก่าๆ น่าจะยังอยู่ ผมเคยพูดไว้ว่าต้องการให้ทุกกิจการอยู่ร่วมกันกับชุมชนได้อย่างปกติสุข ไม่สร้างผลกระทบให้กับผู้อื่น แค่นั้นเองครับ ผมไม่ได้มาต่อต้านอบายมุก มอมเมาเยาวชน จึงไม่มีเหตุผลให้ต้องไปร้องเรียนหรือดำเนินการเกินเลยกว่ากฏระเบียบที่ความคุมให้ชุมชนเป็นสุขเลย ผมเข้าใจคนทำมาหากินครับ หวังว่าคุณจะเข้าใจชุมชนนะครับ

ความคิดเห็น/คำตอบที่ 8

ตอบ :

24 กรกฎาคม 2556, 14:19 น.


แล้วตอนนี้พวกคุณพอใจรึยังคะที่ร้านทุกร้านงดเล่นดนตรีสดเปิดแต่เพลงอย่างเดียวพวกคุณยังคิดว่าดังพอที่จะได้ยินอยู่มั้ยคะ เพราะตอนนี้ผลจากการที่ไม่มีดนตรีสดกลุ่มลูกค้าก้อหายไปที่อื่นหมดแล้ว แล้วร้านอื่นๆก็ยังมีการเล่นดนตรีสดปกติ ตอนนี้โซนนี้เงียบเหงากันเกือบทุกร้าน พวกคุณคงพอใจแล้วสินะที่เป็นอย่างนี้ หรือยังไม่พอใจคะ เห็นยังเอาเวลามาคอยจับผิดอยู่ตลอดยังงี้ ไม่เลิกลากันเลยนี่ค่ะท่าน แล้วจะเอายังไงกับโซนนี้อีกละคะ จากเจ้าของร้านๆหนึ่งหลังตลาดรวยโชค

ความคิดเห็น/คำตอบที่ 9

นาย :

24 กรกฎาคม 2556, 14:57 น.


ตัวผมเองไม่ใช่ผู้เดือดร้อยโดยตรงคงตอบได้ไม่เต็มที่ในส่วนที่ว่าพอใจหรือยัง ขอเวลาสักพักจะหาคำตอบมาให้ครับ ส่วนเรื่องเปิดเพลงอย่างเดียวผมเชื่อว่าเสียงที่คงที่ย่อมรบกวนน้อยกว่าเสียงที่ไม่คงที่เชื่อว่าคงดีกว่าเดิม ประเด็นต่อไปคือร้านอื่นๆ ยังมีการเล่นดนตรีสดปกติ ซึ่งไม่เป็นธรรมกับร้านของคุณ อันนี้ต้องช่วยเจ้าหน้าที่ดูแลและหากเจ้าหน้าที่เลือกปฏิบัติก็ควรร้องเรียนตามขั้นตอนครับ ประเด็นที่ถามว่าร้านเหงียบเหงาแล้วเราพอใจ อันนี้ตอบได้เลยครับว่าไม่ใช่สิ่งที่เราต้องการ แต่เป็นผลข้างเคียงที่เราเห็นใจครับถ้าร้านทุกร้านอยู่ในระเบียบเดียวกันก็คงเป็นเรื่องที่ดีครับ ประเด็นที่ถามว่าคอยจับผิดไม่เลิกลา อยากให้มองเป็นการช่วยกันดูแลสังคมของเรานะครับ หากทำถูกต้องแล้วใครก็คงมาทำอะไรได้ยากครับ
สรุปเท่าที่จับใจความรวมๆ แล้วคือเหลือประเด็นเดียวที่คาใจคือปฏิบัติไม่เท่าเทียมกันทุกร้าน ก็ต้องช่วยกันดูแลต่อไปครับ ทางร้านก็คงต้องช่วยอีกแรงครับ เจ้าหน้าที่ก็ควรแจ้งความคืบหน้า ให้ทุกคนได้เข้าใจ

หวังว่าคงเข้าใจเป้าหมายของเรานะครับ ไม่ได้ต้องการเลือกทำร้ายใครจริงๆ แค่ต้องการให้อยู่ร่วมกันอย่างปกติสุข

ความคิดเห็น/คำตอบที่ 10

ตอบ...ข้อสงสัยของผู้ประกอบการร้านอาหาร และสถานบันเทิง :

25 กรกฎาคม 2556, 13:27 น.


ทางเทศบาลเมืองแม่โจ้ก็ได้เข้าใจในปัญหาของทางร้านเป็นอย่างดี แต่ทางเทศบาลก็ต้องดำเนินการทางกฎหมายบ้านเมือง เมื่อมีผู้มาร้องทุกข์ หรือมีปัญหาภายในชุมชน เทศบาลเมืองแม่โจ้ ซึ่งเป็นหน่วยงานหนึ่งที่สำคัญที่ต้องดูแลคนในชุมชนเขตเทศบาลเมืองแม่โจ้ ให้มีความสุขและปลอดภัย เพราะมันเป็นหน้าที่ของเทศบาลเมืองแม่โจ้ที่ต้องดำเนินการ ซึ่งทางเทศบาลเมืองแม่โจ้ ได้เรียกผู้ประกอบการร้านอาหารบันเทิงทั้งหมด ในเขตเทศบาลเมืองแม่โจ้ และเรียกผู้ประกอบการหอพัก และคนในชุมชน มาหารือกันแล้ว แต่ปรากฏว่ามีร้านค้ามาไม่ถึง 10 ร้าน และที่สำคัญทางผู้ประกอบการหอพัก และชาวบ้าน เขายินยอมให้เปิดกิจการต่อแล้ว แต่พวกผู้ประกอบการหอพัก และชุมชนขอจากร้านอาหารบันเทิงคือขอร้องไม่มีดนตรีสดได้หรือไม่ เหตุผลเพราะมันเสียงดันมาก และมันฟังไม่รู้เรื่อง เนื่องจากบริเวณนั้นมีร้านอาหารบันเทิงเป็น 10 กว่าร้านค้า และเล่นเพลงดนตรีสดทุกร้านพร้อมกัน แต่ร้านค้าไม่ยอมและยังเล่นดนตรีสดต่อไป ทำให้ผู้ประกอบการหอพัก และชุมชนต้องมาหารือกันอีกครั้ง สุดท้ายผู้ประกอบการหอพักและชุมชนก็เอากฎหมายมาสู้ คือจะส่งเรื่องถึงศาลปกครอง เทศบาลเมืองแม่โจ้เลยต้องลงตรวจเองและก็เจอเป็นอย่างทางผู้ประกอบการหอพักและชุมชนชาวบ้านพูดกัน คือ ร้านอาหารบันเทิงเล่นเพลงดนตรีสดและเสียงดังมาก และเป็นแบบนี้ทุกคืน และที่สำคัญคือทุกร้านไม่มีใบอนุญาตใช้เสียง และใบอนุญาตประกอบกิจการเลย ทางเทศบาลเลยจำเป็นต้องดำเนินการตามกฎหมาย แต่ถ้าผู้ประกอบการร้านอาหารบันเทิงท่านใดเห็นว่าไม่ได้รับความยุติธรรม ก็สามารถเขามาถามทางเทศบาลเมืองแม่โจ้ได้ หรือดำเนินการทางกฎหมายของท่านได้ ถ้าท่านคิดว่าที่ท่านทำทุกวันนี้มันถูกต้องแล้วท่านก็ดำเนินการทางกฎหมายเลย เอากฎหมายมาคุยกับ ทางผู้ประกอบการหอพัก และชุมชนชาวบ้านที่เขาเดือดร้อนกันจริงๆ บริเวณแถวนั้นเลยครับ ( เพราะทางผู้ประกอบการหอพักและชุมชนเขาพร้อมอยู่แล้วเรื่องกฎหมาย ) ทางเทศบาลเมืองแม่โจ้ยินดีเป็นคนกลางเพื่อยุติเรื่องนี้
สุดท้ายนะครับ.... >_<
ด้วยมารยาททางสังคม ไม่จำเป็นต้องพาดพิงถึงสถานประกอบการอื่น บอกตรงนี้เลยนะครับตอนนี้เทศบาลเมืองแม่โจ้ ได้ออกตรวจร้านอาหารบริการ หรือร้านอาหารบันเทิงหมดทุกร้านที่อยู่ในเขตเทศบาลเมืองแม่โจ้แล้ว บอกเลยว่าทุกร้านค้า และตอนนี้ก็กำลังดำเนินการอยู่ ถ้าร้านค้า หรือร้านอาหารบันเทิงร้านใดยังไม่ลดเสียงหรือยังไม่ปรับปรุงให้ถูกระเบียบ กฏเกณฑ์ของสังคม ทางเทศบาลเมืองแม่โจ้ก็จำเป็นต้องดำเนินทางกฎหมายเหมือนกันทุกร้าน

ความคิดเห็น/คำตอบที่ 11

แสดงความคิดเห็น/ตอบกระทู้

กฎกติกาการตั้งกระทู้และแสดงความคิดเห็น

เทศบาลเมืองแม่โจ้ขอความร่วมมือทุกท่านโปรดงดเว้นการใช้ข้อความที่มีลักษณะหรือเจตนาดังต่อไปนี้

  • 1. ข้อความอันเป็นการวิพากษ์วิจารณ์ สถาบันพระมหากษัตริย์ และราชวงศ์
  • 2. ข้อความคำหยาบคาย ลามก อนาจาร ทะลึ่ง เกินที่สุภาพชนทั่วไปจะรับได้ (ถ้าข้อคิดเห็นของท่านมีเหตุผล น่าสนใจ แต่มีบางคำไม่เหมาะสมแฝงอยู่ ก็จะโดนลบทิ้งเช่นกัน)
  • 3. ข้อความที่มีเจตนาใส่ร้าย-ใส่ความ บุคคลอื่นอย่างชัดแจ้ง และไร้เหตุผลรองรับ
  • 4. ข้อความท้าทาย ชักชวน โดยมีเจตนาก่อให้เกิดการทะเลาะวิวาท หรือความวุ่นวายขึ้น
  • 5. ข้อความกล่าวโจมตี หรือวิพากษ์วิจารณ์ในทางเสียหายต่อ ศาสนา หรือคำสอนต่างๆ
  • 6. ชื่อ / นามแฝงอันเป็นชื่อจริงของผู้อื่น โดยมีเจตนาทำให้สาธารณะชนเข้าใจผิด และเจ้าของชื่อผู้นั้นได้รับความเสียหาย หรือเสื่อมเสียชื่อเสียง
  • 7. ข้อความที่พิมพ์ซ้ำๆ ติดกันจำนวนมาก ทำให้หน้าเว็บไม่เป็นระเบียบ
  • 8. ข้อความที่พิมพ์ข้อมูลส่วนตัวของผู้อื่น เช่น ชื่อจริง เบอร์โทร อีเมล์หรือเบอร์โทรศัพท์ โดยมีเจตนากลั่นแกล้งให้เกิดความเสียหาย
  • 9. ข้อความโฆษณาชวนเชื่อทุกกรณี ไม่ว่าจะเป็นโฆษณาเว็บ, สินค้า, บริการ, กลวิธีการหารายได้ทั้งหลาย

หากมีการตรวจพบข้อความดังกล่าวข้างต้น เจ้าหน้าที่ขอสงวนสิทธิ์ในการลบข้อมูลออกจากระบบ โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อผู้ตั้งกระทู้หรือแสดงความคิดเห็นนั้น